การสานก๋วย
"ก๋วย" เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่อยู่คู่กับชุมชนมานาน แต่ก่อนนั้นยังไม่ได้มีการทำเป็นอาชีพ จนเมื่อประมาณ 25 ปีที่ผ่านมาเรื่มมีการทำก๋วยเป็นอาชีพขึ้น "แม่อุ้ยติ๊บ รู้ดี" วัย 75 ปี บอกเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของแม่อุ้ยติ๊บ บอกว่า ผู้นำก๋วยมาเผยแพร่ให้คนในชุมชน จนทำให้ก๋วยกลายเป็นนอาชีพนั้น คือ "ครูไสว เฟื่องฟู" ซึ่งตอนนั้น เป็นครูสอนที่โรงเรียนบ้านทุ่งละคร ภายหลังครูไสวได้ลาออกจากการเป็นครู และได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต่อมาได้เป็นกำนันตำบลเชียงดาว ซึ่งระหว่างที่เขาเป็นผู้นำท้องถิ่นอยู่นั้น ได้ทำอาชีพเสริม คือ รับซื้อพืชผักจากเกษตรกรไปขายตลาดในเมือง จึงจำเป็นต้องซื้อก๋วยมาใส่ผัก โดยต้องไปซื้อก๋วยจากพื้นที่อื่น
"ครูไสว" เห็นว่าการสานก๋วยน่าจะเป็นอาชีพเสริมให้กับคนในหมู่บ้านได้ จึงได้นำเอาแม่พิมพ์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปีม" โดยครั้งแรกให้ญาติพี่น้องทดลองสานกันก่อน เมื่อสานได้แล้วก็เผยแพร่ให้คนในหมู่บ้านทำกันต่อไป โดยที่ครูไสวเป็นคนรับซื้อก๋วยเองในตอนนั้น เมื่อสอบถามที่มาของการจัดสานก๋วยของตำบลแม่นะ ชาวบ้านบอกว่าเริ่มมีการสานก๋วย เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 เริ่มแรกได้สานก๋วยเพื่อส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าบ้านทุ่งละคร ต.เชียงดาว โดยตอนแรกนั้นพ่อค้าแม่ค้าจะเป็นตัวกำหนดว่าจะรับซื้อก๋วยจำนวน 100 ใบ ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็จะแบ่งกันไปทำ กระจายให้แต่ละหลังคาเรือน รับไปสานกันคนละ 2-3 ใบ ต่อมาเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักป้อนส่งตลาดในเมือง เริ่มสนใจและหันมาสั่งซื้อก๋วยไปใส่ผักเป็นจำนวนมากขึ้น ตลาดรับซื้อก๋วยจึงเริ่มขยายกว้างขึ้นตามลำดับ จนชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นๆ สนใจหันมาสานก๋วยกันเพิ่มขึ้น โดยคนในหมู่บ้านที่สานก๋วยเป็น ก็จะเป็นผู้สอนให้ โดยมีพ่อค้าเอาไม้มาให้สาน บ้างก็จ้างชาวบ้านไปเป็นวิทยากรในการสอนการสานก๋วยให้กับเพื่อนบ้านตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม
ปี พ.ศ. 2528 การผลิกก๋วยและการซื้อขายก๋วย เริ่มคึกคักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ชาวบ้านเริ่มหันมาสานก๋วยกันในช่วงเวลาว่างกันมากขึ้น ครวบครัวหนึ่งจะสานก๋วยกันประมาณ 20 ใบ โดยเริ่มมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อก๋วยถึงในหมู่บ้าน ในราคาใบละ 1.20 บาท จนกระทั่งการสานก๋วยได้กลายเป็นอาชีพเสริมให้กับชาวบ้านเกือนทั่วตำบล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น